วันที่ 16 กรกฎาคม 2567

การรับรางวัล (How to Claim Prizes)

ผู้ถือสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ถูกรางวัลสามารถขอรับเงินรางวัลได้ภายใน 2 ปี นับจากวันออกรางวัล หากพ้นกำหนดถือว่าสละสิทธิ์การรับเงินรางวัล สลากที่ถูกรางวัลต้องไม่มีรอยฉีกขาดหรือชำรุดในสาระสำคัญ และต้องมีลายมือชื่อผู้ขอรับเงินรางวัลด้านหลังสลาก

วิธีการรับรางวัล

• รางวัลไม่เกิน 20,000 บาท: รับได้ที่ตัวแทนจำหน่ายสลากฯ ทั่วประเทศที่ร่วมรายการ หรือที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล
• รางวัล 20,001 – 100,000 บาท: รับได้ที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือผ่านตัวแทนธนาคารที่เข้าร่วม
• รางวัลเกิน 100,000 บาท: รับได้ที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเท่านั้น โดยต้องนำบัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทางมาแสดงตน

ผู้ถูกรางวัลต้องนำสลากต้นฉบับมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจสอบความถูกต้อง การจ่ายรางวัลจะถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายตามที่กฎหมายกำหนด โปรดตรวจสอบผลการออกรางวัลจากเว็บไซต์ทางการของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลทุกครั้งเพื่อความถูกต้อง

ลิงก์เว็บไซต์ทางการ (Official Website Link)

ตรวจสอบผลการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลอย่างเป็นทางการได้ที่เว็บไซต์สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เพื่อรับข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบันมากที่สุด เว็บไซต์ทางการมีการอัปเดตข้อมูลทันทีหลังการออกรางวัลเสร็จสิ้น

นอกจากการตรวจผลรางวัลแล้ว เว็บไซต์ทางการยังมีข้อมูลสำคัญอื่นๆ เช่น ประวัติการออกรางวัล ข้อมูลเกี่ยวกับการรับรางวัล และช่องทางการติดต่อสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ผู้ซื้อสลากควรตรวจสอบผลกับเว็บไซต์ทางการทุกครั้งเพื่อป้องกันการถูกหลอกลวง

การจัดสรรเงินรายได้สลากกินแบ่งรัฐบาล (Lottery Fund Allocation)

รายได้จากการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลถูกจัดสรรเพื่อประโยชน์ต่อสังคมไทยในหลายด้าน โดยเงินรายได้สุทธิจะถูกนำส่งเข้าคลังเป็นรายได้แผ่นดิน และจัดสรรเพื่อกิจกรรมสาธารณประโยชน์ต่างๆ ทั่วประเทศ การบริหารจัดการเงินรายได้ดำเนินการอย่างโปร่งใสตามพระราชบัญญัติสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล

สัดส่วนการจัดสรรเงินรายได้

• 60% จ่ายเป็นเงินรางวัลให้ผู้ถูกรางวัล
• 20% นำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน
• 12% เป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารงานและค่าใช้จ่ายในการจำหน่ายสลาก
• 8% เป็นเงินสนับสนุนกิจกรรมสาธารณประโยชน์

ตัวอย่างโครงการที่ได้รับการสนับสนุน

• โครงการพัฒนาทางการแพทย์และสาธารณสุข: สนับสนุนการจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ให้แก่โรงพยาบาลในพื้นที่ห่างไกล และการพัฒนาระบบสาธารณสุขในชุมชน เช่น โครงการจัดซื้อเครื่องมือแพทย์ที่ทันสมัยให้โรงพยาบาลศิริราช และโรงพยาบาลจังหวัดต่างๆ
• โครงการพัฒนาการศึกษา: มอบทุนการศึกษาให้แก่เยาวชนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ทั่วประเทศ และการพัฒนาอาคารเรียนในพื้นที่ชนบท เช่น โครงการก่อสร้างอาคารเรียนในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน และการสนับสนุนทุนการศึกษา “เรียนดี-ยากจน”
• โครงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ: จัดสรรเงินช่วยเหลือฉุกเฉินและฟื้นฟูให้แก่ผู้ประสบภัยธรรมชาติต่างๆ เช่น น้ำท่วม ภัยแล้ง และแผ่นดินไหว รวมถึงการฟื้นฟูชุมชนหลังเกิดภัยพิบัติ

นอกจากนี้ ยังมีการสนับสนุนด้านสวัสดิการสังคม การพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้พิการ ผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาส รวมถึงโครงการด้านการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของชุมชน เงินรางวัลที่ไม่มีผู้มาขอรับภายในเวลาที่กำหนดจะถูกนำไปเพิ่มเติมในส่วนของเงินสนับสนุนโครงการเพื่อสังคมเหล่านี้