วันประกาศผลรางวัล 01 กันยายน 2567

วิธีการขอรับรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล

ผู้ถือสลากที่ถูกรางวัลสามารถขอรับเงินรางวัลได้ภายใน 2 ปี นับจากวันออกรางวัล หากพ้นกำหนดจะไม่สามารถขอรับรางวัลได้ โปรดเก็บรักษาสลากของท่านในที่ปลอดภัยและตรวจสอบว่าสลากอยู่ในสภาพสมบูรณ์ไม่ชำรุด ฉีกขาด หรือมีร่องรอยแก้ไข

ขั้นตอนการขอรับรางวัล:

• รางวัลมูลค่าไม่เกิน 20,000 บาท: สามารถขอรับได้ที่ตัวแทนจำหน่ายสลากทั่วประเทศ หรือที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล
• รางวัลมูลค่าเกิน 20,000 – 100,000 บาท: ขอรับได้ที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลหรือสาขาของธนาคารที่กำหนด
• รางวัลมูลค่าเกิน 100,000 บาทขึ้นไป: ต้องขอรับที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเท่านั้น พร้อมบัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงหรือเอกสารแสดงตัวตนที่ทางราชการออกให้

ก่อนเดินทางไปขอรับรางวัล โปรดตรวจสอบผลการออกรางวัลจากเว็บไซต์ทางการของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่อความถูกต้อง การตรวจสอบซ้ำจะช่วยป้องกันความผิดพลาดในการอ่านหรือตรวจสอบตัวเลข

ลิงก์เว็บไซต์ทางการของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล

เพื่อความถูกต้องและความน่าเชื่อถือของข้อมูลผลการออกสลากกินแบ่งรัฐบาล ขอแนะนำให้ตรวจสอบผลรางวัลจากเว็บไซต์ทางการของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ข้อมูลบนเว็บไซต์ทางการมีการอัปเดตอย่างเป็นทางการและมีความถูกต้องสูงสุด

เว็บไซต์ทางการ: https://www.glo.or.th

บนเว็บไซต์ทางการของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ท่านสามารถพบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ:

• ผลการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลย้อนหลัง
• ตารางการออกรางวัลงวดต่อไป
• ขั้นตอนและวิธีการขอรับรางวัล
• สถานที่จำหน่ายและรับซื้อสลากที่ได้รับอนุญาต
• ข่าวประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับสลากกินแบ่งรัฐบาล

การจัดสรรรายได้จากสลากกินแบ่งรัฐบาล

รายได้จากการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลถูกนำไปจัดสรรเพื่อประโยชน์ต่อสังคมไทยในหลากหลายด้าน โดยนำส่งเป็นรายได้แผ่นดินและจัดสรรสำหรับโครงการพัฒนาสังคมต่างๆ การซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลจึงเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการพัฒนาประเทศ

สัดส่วนรายได้จากการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลถูกจัดสรรดังนี้:

• ประมาณร้อยละ 60 สำหรับการจ่ายเงินรางวัล
• ประมาณร้อยละ 20 นำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน
• ประมาณร้อยละ 12 เป็นค่าบริหารจัดการและค่าใช้จ่ายของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล
• ประมาณร้อยละ 8 จัดสรรเพื่อการพัฒนาสังคมและโครงการสาธารณประโยชน์

ตัวอย่างโครงการที่ได้รับการสนับสนุนจากรายได้ของสลากกินแบ่งรัฐบาล:

• โครงการพัฒนาการศึกษา: สนับสนุนการสร้างและปรับปรุงอาคารเรียน การจัดหาอุปกรณ์การศึกษา และทุนการศึกษาสำหรับเด็กนักเรียนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ทั่วประเทศ
• โครงการสาธารณสุข: สนับสนุนการจัดซื้อเครื่องมือแพทย์ การก่อสร้างอาคารผู้ป่วย และการพัฒนาระบบบริการสุขภาพในพื้นที่ห่างไกล
• โครงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ: จัดสรรงบประมาณเพื่อช่วยเหลือและฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยพิบัติต่างๆ เช่น น้ำท่วม ภัยแล้ง และภัยธรรมชาติอื่นๆ